1.10 Social
Network คือ เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกัน ผ่าน Internetซึ่งเป็นเว็บไซต์ช่วยให้คุณหาเพื่อนบนโลกอินเตอร์เน็ตได้ง่ายๆ
เราสามารถที่จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา เพื่อแนะนำตัวเองได้
โดยเลือกได้ว่าต้องการรู้จักกับใคร หรือเป็นเพื่อนกับใคร ก็ได้
2. จากรูปจงอธิบายการทำงานของส่วนประกอบของ Computer ต่อไปนี้
โดยหลักการแล้ว
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ที่ทำงานตามหน้าที่ 4 ส่วนด้วยกัน
คือ
1.) ส่วนรับข้อมูล (Input Unit)
2.) ส่วนประมวลผลข้อมูล (Central
Processing Unit)
3.) ส่วนแสดงผล (Output Unit)
4.) หน่วยความจำ (Memory Unit)
1.)
ส่วนรับข้อมูล (Input Unit)
ส่วนรับข้อมูล (Input Unit) เป็น
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลจากคน และส่งต่อข้อมูลไปยัง หน่วยประมวลผล(Process
Unit) เพื่อทำการประมวลผลต่อไป รูปแบบการส่งข้อมูลจากอุปกรณ์รับข้อมูลจะอยู่ในรูปของการส่งสัญญาณเป็นรหัส
ดิจิตอล (หรือเป็นเลข 0 กับ 1) นั่นเอง
อุปกรณ์ส่วนรับข้อมูล ได้แก่
- คีย์บอร์ด (keyboard)
- เมาส์ (mouse)
- สแกนเนอร์ (scanner)
- อุปกรณ์สแกนลายนิ้วมือ (finger
scan)
- ไมโครโฟน(microphone)
- กล้องเว็บแคม (webcam)
2.)
ส่วนประมวลผลข้อมล (Central Processing Unit)
ส่วนประมวลผลข้อมูล (Central
Processing Unit) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่รับมาจาก
ส่วนรับข้อมูล(Input Unit) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานต่างๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์
3.)
หน่วยแสดงผล (Output Unit)
หน่วยแสดงผล
(Output Unit) เป็นหน่วยที่แสดงผลลัพธ์ที่มาจากการประมวลผลข้อมูล
ของส่วนประมวลผลข้อมูล โดยปกติรูปแบบของการแสดงผล มีอยู่ 2 แบบ
ด้วยกันคือ แบบที่สามารถเก็บไว้ดูภายหลังได้ และแบบที่ไม่มีสำเนาเก็บไว้
- แบบที่สามารถเก็บไว้ดูภายหลังได้ เช่น เครื่องพิมพ์
(Printer) และ เครื่องวาด (Plotter)
- แบบที่ไม่มีสำเนาเก็บไว้ เช่น จอภาพ(Monitor)
, เครื่องฉายภาพ(LCD Projector) และ ลำโพง (Speaker)
4.)
หน่วยความจำ (Memory Unit)
หน่วยความจำ
(Memory Unit) อุปกรณ์เก็บสถานะข้อมูลและชุดคำสั่ง เพื่อการประมวลผลของ
คอมพิวเตอร์
แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ หน่วยความจำชั่วคราวและหน่วยความจำถาวร
- หน่วยความจำชั่วคราว คือ แรม
(RAM: Random Access Memory)เป็นหน่วยความจำที่ใช้ขณะคอมพิวเตอร์ทำงาน
ข้อมูลและชุดคำสั่งจะหายไปทุกครั้งที่เราปิดเครื่อง
-
หน่วยความจำถาวรหรือ หน่วยความจำหลัก ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ Hard
Disk ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล และรอม (ROM: Read Only Memory) ที่ใช้ในการเก็บค่าไบออส หน่วยความจำถาวรจะใช้ในการเก็บข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์และจะไม่สูญหาย
เมื่อปิดเครื่อง
3. จงยกตัวอย่างส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
Input Unit เช่น (ยกตัวอย่าง
5 อย่าง)
1.แป้นพิมพ์ (Keyboard)แป้นพิมพ์ หรือ คีย์บอร์ด เป็นอุปกรณ์สำหรับนำเข้าข้อมูลขั้นพื้นฐาน
ทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับระบบคอมพิวเตอร์
โดยส่งคำสั่งหรือข้อมูลจากผู้ใช้ไปสู่หน่วยประมวลผลในระบบคอมพิวเตอร์
2. เมาส์ (Mouse)คือ อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปอีกชนิดหนึ่ง
ซึ่งใช้งานง่ายและสะดวกกว่าแป้นพิมพ์มาก
เนื่องจากไม่ต้องจดจำคำสั่งสำหรับป้อนเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
3. สแกนเนอร์ (Scanner)เป็นอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลประเภทที่ไม่สะดวกในการป้อนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ทางคีย์บอร์ดได้
เช่น ภาพโลโก้ วิวทิวทัศน์ ภาพถ่ายรูปคน สัตว์ ฯลฯ
4.
เครื่องรู้จำอักขระด้วยแสง (Optical Character
Recognition - ORC)โอซีอาร์
เป็นอุปกรณ์สำหรับอ่านข้อมูลที่เป็นตัวอักขระบนเอกสารต่าง ๆ
และทำการแปลงข้อมูลดิจิตอลที่อ่านได้ไปเป็นตัวอักษรโดยอัตโนมัติ
5.จอยสติก (Joystick)จอยสติกจะเป็นก้านสำหรับใช้โยกขึ้นลง / ซ้ายขวา
เพื่อย้ายตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพ มีหลักการทำงานเช่นเดียวกับเมาส์
แต่จะมีแป้นกดเพิ่มเติมมาจำนวนหนึ่งสำหรับสั่งงานพิเศษ
นิยมใช้กับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์หรือควบคุมหุ่นยนต์
CPU ภายในประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
1. ส่วนควบคุม
(Control Unit) ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานส่วนกลางของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบ
สัญญาณควบคุม จำนวนมาก สามารถเดินทางไปยังส่วนประกอบต่างๆ
ของระบบคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตัวส่งสัญญาณ
2. ส่วนคำนวณและเปรียบเทียบข้อมูล (Aritmetic
and Logic Unit : ALU) นับว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด “หัวใจ” ของเครื่องคอมพิวเตอร์
ทำหน้าที่คำนวณโดยอาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์
Main Memory 1แบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือ
1. หน่วยความจำหลักแบบอ่านได้อย่างเดียว (Read
Only Memory - ROM)
เป็นหน่วยความจำแบบสารกึ่งตัวนำชั่วคราวชนิดอ่านได้อย่างเดียว
ใช้เป็นสื่อบันทึกในคอมพิวเตอร์ เพราะไม่สามารถบันทึกซ้ำได้ (อย่างง่ายๆ) เป็นความจำที่ซอฟต์แวร์หรือข้อมูลอยู่แล้ว
และพร้อมที่จะนำมาต่อกับไมโครโพรเซสเซอร์ได้โดยตรง หน่วยความจำประเภทนี้แม้ไม่มีไฟเลี้ยงต่ออยู่
ข้อมูลก็จะไม่หายไปจากน่วยความจำ (nonvolatile)
2. หน่วยความจำหลักแบบแก้ไขได้ (Random
Access Memory - RAM)
เป็นหน่วยความจำหลัก
ที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบัน หน่วยความจำชนิดนี้ อนุญาตให้เขียนและอ่านข้อมูลได้ในตำแหน่งต่างๆ
อย่างอิสระ และรวดเร็วพอสมควร ซึ่งต่างจากสื่อเก็บข้อมูลชนิดอื่นๆ อย่างเทป
หรือดิสก์ ที่มีข้อจำกัดในการอ่านและเขียนข้อมูล ที่ต้องทำตามลำดับก่อนหลังตามที่จัดเก็บไว้ในสื่อ
หรือมีข้อกำจัดแบบรอม ที่อนุญาตให้อ่านเพียงอย่างเดียว
Secondary Storage เช่น (ยกตัวอย่าง 5 อย่าง)
1. เทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape) เป็นหน่วยเก็บข้อมูลที่ใช้กันมานานตั้งแต่คอมพิวเตอร์ยุคทีหนึ่งและยุคที่สอง
ปัจจุบันได้รับความนิยมน้อยลง เทปแม่เหล็กมีหลักการทำงานคล้ายเทปบันทึกเสียง
แต่เปลี่ยนจากการเล่น (Play) และบันทึก (Record) เป็นการอ่าน (Read)
2. จานแม่เหล็ก
(Magnetic Disk) จานแม่เหล็กสามารถเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก
และมีคุณสมบัติในการ เข้าถึงข้อมูลโดยตรง (Direct access) ไม่จำเป็นต้องอ่านไปตามลำดับเหมือนเทป จานแม่เหล็กจะต้องใช้คู่กับ
ตัวขับจานแม่เหล็ก หรือ ดิสก์ไดร์ฟ (Disk drive) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับอ่านเขียนจานแม่เหล็ก
3. ออปติคัลดิสก์
(Optical Disk) มีหลักการทำงานคล้ายกับการเล่นซีดี (CD) เพลง คือใช้เทคโนโลยีของแสงเลเซอร์
ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมหาศาลในราคาไม่แพงนัก
แบตเตอรี่แบบเติมประจุ (Rechargeable battery)แบตเตอรี่แบบเติมประจุ ได้รับความนิยมมาใช้ในอุปกรณ์แบบพกพา เช่น
เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค เครื่องพีดีเอ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น
เนื่องจากแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ๆ
5. ยูพีเอส (UPS) ยูพีเอส หรือ Uninterruptible Power Supply เป็นอุปกรณ์สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าสำรองจากแบตเตอรี่
เพื่อเป็นแหล่งพลังงานฉุกเฉินในกรณีเกิดปัญหากับระบบไฟฟ้าหลัก เช่น ไฟดับ ไฟตก
ไฟเกิน เป็นต้น
Output Unit เช่น (ยกตัวอย่าง 3 อย่าง) ..
1. หน้าจอ (Monitor) ใช้แสดงข้อมูลหรือผลลัพธ์ให้ผู้ใช้เห็นได้ทันที
มีรูปร่างคล้ายจอภาพของโทรทัศน์ บนจอภาพประกอบด้วยจุดจำนวนมากมาย
เรียกจุดเหล่านั้นว่า พิกเซล (pixel) ถ้ามีพิเซลจำนวนมากก็จะทำให้ผู้ใช้มาองเห็นภาพบนจอได้ชัดเจนมากขึ้น
2. เครื่องพิมพ์ (Printer)เป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้กันมาก และมีให้เลือกหลายชนิดขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวอักษร
ความเร็วในการพิมพ์ และเทคโนโลยีที่ใช้งาน
3. เครื่องพลอตเตอร์ (Plotler)ใช้วาดหรือเขียนภาพสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง ๆ
นิยมใช้กับงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม
มีให้เลือกหลายชนิดโดยจะแตกต่างกันในด้านความเร็ว ขนาดกระดาษ และจำนวนปากกาที่ใช้เขียนในแต่ละครั้ง
มีราคาแพงกว่าเครื่องพิมพ์ธรรมดา
4. จงยกตัวอย่างประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต (Internet) มาอย่างน้อย
5 ข้อ
1. สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ
ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ
2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
3. นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ
เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง
ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น
4. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น
การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine
online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ
ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป
5. สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
6. สามารถดึงข้อมูล (Download)
ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้
5. จงบอกประโยชน์ของการทำพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce ) มา 5 ข้อ
1. ทำการค้าได้ตลอด
24 ชั่งโมง และขายสินค้าได้ทั่วโลก
นักท่องอินเตอร์เน็ตจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้ามาในเว็บไซต์ของบริษัทได้ตลอดเวลาผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้า
ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆได้อย่างรวดเร็ว โดยคำสั่งซื้ออาจเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงและมาจากที่ต่างๆกัน
2. ข้อมูลทันสมัยอยู่เสมอ
และประหยัดค่าใช้จ่าย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นั้นมีประโยชน์ที่สำคัญมากอีกประการหนึ่ง
คือสามารถ เสนอข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดให้กับลูกค้าได้ทันทีซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์เอกสาร
และประหยัดเวลาในการประชาสัมพันธ์
3. ทำงานแทนพนักงานขาย
และเพิ่มประสิทธิภาพการขาย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถทำงานแทนพนักงานขายของคุณได้
โดยสามารถทำการค้าในรูปแบบอัตโนมัติ และดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการทางธุรกิจภายในองค์กรนั้นๆ
4. แทนหน้าร้าน
หรือบูทแสดงสินค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถแสดงสินค้าที่มีอยู่ให้กับลูกค้าทั่วโลกได้มองเห็นสินค้าของคุณ
โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตกแต่งหน้าร้าน หรือในการเดินทางออกไปในบูทแสดงสินค้าในที่ต่างๆ
5. เทคโนโลยีช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยในการทำให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น
การแสดงสินค้าโดยผู้ชมสามารถดูสินค้าได้ 180 องศา
หรือลูกค้าสามารถอ่านหัวข้อของหนังสือที่ต้องการซื้อก่อนได้